แอร์รถยนต์ เย็นไม่ฉ่ำเกิดจากอะไร?
รถแอร์ร้อน
สาเหตุที่ทำใหแอร์ไม่เย็นและวิธีแก้…
การใช้รถยนต์ไปนานๆ อาจทำให้ระบบต่างๆ ภายในรถยนต์เสื่อมสภาพได้ ระบบ “แอร์” ก็เช่นกัน ยิ่งในเมืองไทย อากาศร้อนอบอ้าวแทบทั้งปี และคนไทยใช้ชีวิตบนรถเป็นเวลาหลายชั่วโมง หาก แอร์รถยนต์ เกิดเย็นไม่ฉ่ำขึ้นมา อาจเพิ่มความร้อนไปจนถึง “หัวร้อน” ให้คนขับได้
แอร์รถยนต์ เย็นไม่ฉ่ำ สาเหตุหนึ่งเกิดจากชุดวาล์วและดรายเออร์อุดตัน ดรายเออร์ทำหน้าที่กรองสิ่งสกปรกจากน้ำยาแอร์ กรณีนี้จะทำให้น้ำยาแอร์ที่ฉีดออกจากคอมเพรสเซอร์ผ่านเข้าไปในคอยล์เย็นได้ไม่สะดวก ปริมาณน้ำยาแอร์จึงไม่เพียงพอที่จะดูดจับความร้อนภายในห้องโดยสารได้ ในขณะที่สตาร์ทเครื่องยนต์เดินเบา แอร์จะเย็นไม่มาก และมีเสียงดังเมื่อเร่งเครื่องแล้วแอร์จะเย็นนั่นแสดงว่าการอุดตันของวาล์วหรือดรายเออร์
วิธีแก้ปัญหา แอร์รถยนต์ เย็นไม่ฉ่ำ
เปลี่ยนชุดวาล์วและดรายเออร์ใหม่ทั้ง 2 อย่าง เพราะดรายเออร์ทำหน้าที่กรองสิ่งสกปรกจากน้ำยาแอร์ เมื่อวาล์วแอร์อุดตันแสดงว่าดรายเออร์ชำรุดแล้ว
การดูแลแอร์รถยนต์ ให้เย็นฉ่ำไปนานๆ แยกเป็น 2 ส่วน คือ การใช้งาน และการบำรุงรักษา ดังนี้
การใช้งาน
1. เปิดแอร์ก่อนสตาร์ทรถ ป้องกันคอมแอร์ฉุดกำลังการสตาร์ท ก่
2. หลังจากจอดรถตากแดด แนะนำให้เปิดประตูระบายความร้อนก่อน
3. เปิดแอร์เบอร์แรงก่อนการกดปุ่มน้ำยาแอร์ เพื่อไล่ความร้อนออกจากระบบแอร์ และเพื่อไม่ให้แอร์ทำงานหนักเกินไป
4. ถ้าภายในห้องโดยสารเริ่มเย็นให้ลดความเร็วพัดลมอยู่ที่ความเร็วเท่าที่จำเป็น
5. ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม หากปรับมากหรือน้อยไปจะทำให้แอร์ทำงานหนัก
6. 5-10 นาทีก่อนถึงที่หมายให้ปิดปุ่มน้ำยาแอร์ และเปิดพัดลมเบอร์แรงช่วยไล่ความเย็น และความชื้น และช่วยลดกลิ่นอับ
7. เปิดพัดลมแอร์ก่อนดับเครื่อง
8. ห้ามเปิดกระจกขับรถบ่อยๆ เพราะฝุ่นและสิ่งสกปรกจากข้างนอกอาจจะเข้ามาติดในแอร์ได้
9. การติดฟิล์มรถยนต์ก็ช่วยทำให้ระบบแอร์ไม่ต้องทำงานหนักมากไปได้
การบำรุงรักษา
1. ตรวจสอบระบบแอร์ทุกๆ 5,000 กิโลเมตร หรือ ทุกๆ 3 เดือน
2. เติมน้ำยาแอร์ให้ถูกต้องและอยู่ในระดับตามที่คู่มือกำหนด
3. ทำความสะอาดแผงกรองแอร์
4. ตรวจสอบสายพานคอมแอร์ว่าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์หรือเสื่อมสภาพหรือไม่
5. ควรล้างตู้แอร์เป็นประจำทุกๆ 2 ปี
เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ
- อาการน้ำแอร์ไหลที่ใต้ท้องรถ
- เปิดแอร์นอนในรถ ทำไมถึงเสียชีวิต?
- ไม่ควรเปิด แอร์ ตอนรอบเครื่องสูง จริงหรือ !!
- ความรู้เกี่ยวกับรถยนต์เรื่องอื่นๆ
- คุยกับเราได้ที่ https://www.facebook.com/toyotakmotors