ขับรถช้าๆ ประหยัดน้ำมัน จริงหรอ?
ทริคง่ายๆ
ไม่อยากสิ้นเปลืองน้ำมันต้องอ่าน…
หลายคนเข้าใจว่าการขับรถช้าๆ นั้นจะทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดครับ ไม่ว่าจะขับรถช้าไปหรือเร็วไปก็สิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ดี การใช้ความเร็วรถที่มากเกินไปจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาโมเมนตัมเอาไว้ ในขณะที่หากขับช้าไปเกียร์รถจะถูกปรับเกียร์ไปมาอัตโนมัติ ซึ่งต้องใช้พลังงานกับส่วนนี้มากขึ้น
วิธีขับรถให้ ประหยัดน้ำมัน …
ควบคุมความเร็วให้เหมาะสม
ไม่ว่าจะขับรถช้าไปหรือเร็วไปก็สิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ดี สรุปได้ว่าการขับรถให้ประหยัดที่สุดนั้น ต้องใช้ความเร็วคงที่ ซึ่งความเร็วที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เนื่องจากมีประสิทธิภาพการเผาผลาญเชื้อเพลิงดีที่สุด
เร่งเครื่องเฉพาะที่จำเป็น ออกตัวเบา ๆ อย่ากระชาก
การออกตัวแบบกระชาก จะทำให้รถสิ้นเปลืองน้ำมันและทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ เกิดการเสียหายได้ง่าย จึงควรออกตัวเบาๆ และเร่งเครื่องเฉพาะตอนที่จำเป็น
ใช้วิธีการชะลอแทนการเบรกบ่อยๆ
การเบรกรถยนต์บ่อยๆ นอกจากจะส่งผลทำให้เครื่องยนต์พังง่าย ชิ้นส่วนต่างๆ สึกหรอเร็ว ยังทำให้เครื่องยนต์ซดน้ำมันเพิ่มขึ้นได้ถึง 2 เท่า
ใส่เกียร์ N แทนเกียร์ D
เมื่อเจอกับปัญหาจราจรติดขัดนานๆ แนะนำให้เข้าเกียร์ว่าง (N) แทนที่จะเข้าเกียร์เดินหน้า (D) ทิ้งไว้ เพราะสามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีกว่า และไม่ต้องเหยียบเบรกทิ้งไว้ตลอดเวลา
ตรวจสอบเส้นทางก่อนออกเดินทาง
หลีกเลี่ยงเส้นทางจราจรติดขัด ตรวจสอบเส้นทางก่อนออกเดินทาง นอกจากจะช่วยให้ประหยัดเวลายังช่วยประหยัดน้ำมันได้ด้วย
เช็กลมยาง
หมั่นตรวจเช็กลมยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นประจำ เพราะถ้าลมยางอ่อนหรือแข็งไป เครื่องยนต์อาจทำงานหนักไป ส่งผลให้เกิดการสิ้นเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุ
ไม่บรรทุกของหนัก
การบรรทุกของหนักมากเกินไป จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนัก และซดน้ำมันมากกว่าเดิม ฉะนั้นควรบรรทุกเฉพาะของที่จำเป็นเท่านั้น
เปิดแอร์อุณหภูมิที่เหมาะสม
เพราะการเปิดแอร์แต่ละครั้ง จะดึงพลังงานเชื้อเพลิงจากน้ำมันไปใช้มากถึง 10 – 20 % หากเปิดแอร์เย็นเกินไปจะทำให้สิ้นเปลือง จึงควรเปิดแอร์ในอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อลดภาระทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์และเครื่องยนต์นั่นเอง
เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ
- รู้ไว้ซะ!! ต้นเหตุ…เกียร์พัง มาจากสิ่งนี้ !!
- เวลารถติดไฟแดง ต้องใช้เกียร์อะไรกันแน่ ?
- ขับรถเกียร์ออโต้ ต้องใช้กี่เท้า??
- ความรู้เกี่ยวกับรถยนต์เรื่องอื่นๆ
- คุยกับเราได้ที่ https://www.facebook.com/toyotakmotors