รถยนต์มีปัญหา รถวิ่งกินซ้าย ขวา เกิดอะไรขึ้น !!
รถวิ่งไม่ตรง
อันตรายไหม…ปัญหาเกิดจากอะไร?
รถยนต์มีปัญหาการวิ่งไม่ตรง ปล่อยมือแล้วอาจจะกินซ้ายกินขวา อันนี้มีหลายๆ สาเหตุที่ควรตรวจเช็กดู แต่สิ่งที่เราสังเกตได้จากการมองเห็นคือยางเกิน 50% ที่อาการดึงของรถมีสาเหตุมาจากยาง เช่น แรงดันลมอาจจะต่ำไป ก่อนจะไปพิจารณาที่อื่นควรทดลองวัดแรงดันลมยางเป็นอย่างแรก
รถวิ่งกินซ้าย ขวา หากมีปัญหาลมยางอ่อนก็จัดการเติมให้ได้ตามที่ผู้ผลิตกำหนด แต่ถ้าลมยางถูกต้องหรือเติมไปเรียบร้อยแต่ยังไม่หายนั้น ช่วงล่างยังมีปัญหา หลังการทดลองสลับยางแล้วพบว่าอาการดึงของพวงมาลัยยังไม่เปลี่ยนแปลง อาจเกิดจากศูนย์ล้อไม่ถูกต้อง แม้จะคลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้รถเกิดอาการดึงไปด้านใดด้านหนึ่งได้โอกาสที่ศูนย์ล้อจะเกิดการผิดเพี้ยนเปลี่ยนไปนั้นมีได้มาก อย่างเช่น ถ้ายางมีการสึกหรอมากแต่ค่อนข้างสม่ำเสมอที่ขอบหน้ายางด้านใดด้านหนึ่ง จะมีผลทำให้มุมแคมเบอร์ผิดไป และจะเกิดอาการดึงมากขึ้นยามขับบนถนนต่างระดับ หรือพวกถนนหลังเต่าครับ
การสลับยาง เพื่อให้ยางทุกเส้นมีการสึกหรอที่เท่าๆ กัน โดยทั่วไปควรสลับยางทุกๆ 10,000 กิโลเมตร เพราะถ้ายางเกิดสึกหรอขึ้นมาจะส่งผลทำให้ความสมดุลของล้อและระบบช่วงล่างเสียหายได้เร็วยิ่งขึ้น
การตั้งศูนย์ล้อ เป็นการจัดแนวทางระยะต่างๆ และการปรับแต่งกลไกของการบังคับเลี้ยวและระบบช่วงล่างรถยนต์ให้เหมาะสมกับสภาพของรถคันนั้นๆ เมื่อการตั้งศูนย์ล้อเหมาะสมจะทำให้…
-พวงมาลัยบังคับง่าย มั่นคง สะดวกสบาย
-ช่วยป้องกันการสึกหรอของยางรถยนต์
ซึ่งองค์ประกอบสำคัญของศูนย์มีทั้งหมด 4 อย่าง คือ Camber, Kingpin,Caster และ Toe
มุมแคมเบอร์ (camber) เป็นมุมที่ช่วยให้รถยึดเกาะถนนเมื่อทำการโค้ง สังเกตได้จากมุมเอียงของล้อในแนวดิ่ง เมื่อมองจากหน้ารถ หากแนวของวงล้อขนานกับแนวดิ่ง ค่ามุมแคมเบอร์จะเป็น0แต่ถ้าด้านบนถ่างออกด้านล่างหุบเข้า จะเป็นมุมแคมเบอร์บวก และถ้าข้างบนหุบเข้า ด้านล่างถ่างออก ก็จะเป็นมุมแคมเบอร์ ลบ และโดยปกติของรถยนต์ใช้งานทั่วไป มุมแคมเบอร์จะตั้งให้มีค่าเป็น ลบ เล็กน้อยเพื่อการเข้าโค้ง เพราะเวลาเข้าโค้งหน้ายางของแคมเบอร์ที่เป็น ลบ จะถูกน้ำหนักถ่ายเทมาให้กดหน้าสัมผัสของยางได้เต็มที่ แต่ก็ไม่ควรจะตั้งค่าให้ ลบ มากเกินไป เพราะจะทำให้รถวิ่งในทางตรงไม่ดี เนื่องจากหน้าสัมผัสยางจะน้อย
มุมคิงพิน (King Pin) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “มุมเอียงแกนบังคับเลี้ยว” ทำหน้าที่รับน้ำหนักจากตัวรถไปยังล้อ ที่สำคัญยังเป็นเพลาของศูนย์ล้ออีกด้วย คิงพินทำงานเชื่อมโยงกับมุมแคมเบอร์ คือ ช่วยประสานทำให้พวงมาลัยใช้งานได้ง่าย และพวงมาลัยคืนกลับมาขณะเลี้ยว และสิ่งที่เหมือนกันของการทำงานระหว่างแคมเบอร์กับคิงพินก็คือ ทำให้น้ำหนักรถกดลงที่ด้านนอกของยาง แต่ถ้าคิงพินทำงานพลาดจะส่งผลทำให้ยางเกิดการสึกหรอเพียงด้านเดียว
มุมแคสเตอร์ (caster) จะช่วยทำให้พวงมาลัยเด้งกลับมาเหมือนเดิม โดยมุมนี้สามารถสังเกตจากตัวโช๊กอัพหน้าจะเอียงจาก แกนกลางล้อ ส่วนใหญ่เป็นมุมที่มาจากโรงงาน ไม่สามารถปรับได้
มุมโท (toe) ทำหน้าที่ให้รถวิ่งตรงและนิ่ง ซึ่งการดูมุมโทนั้นก็ดูง่ายๆ คือถ้าล้อขนานกับตัวรถจะเป็นค่าtoe เท่ากับ0แต่ถ้าที่ฝั่งด้านหน้ารถหุบเข้า จะเรียกว้ามุม toe-inซึ่งจะมีค่าเป็น ลบ แต่ถ้าล้อฝั่งด้านหน้า ถ่างออก เรียกว่าtoe-outหรือมุมโทบวก รถยนต์ทั่วไปจะตั้งค่าเป็นโทลบเล็กน้อยในล้อหน้าเพื่อให้หน้าจิกถนนให้วิ่งตรงนั่นเอง
การสึกหรอของศูนย์ล้อไม่อาจสามารถเห็นได้ด้วยตา แต่เราสามารถสังเกตได้จากอาการผิดปกติต่างๆ ที่เกริ่นมาข้างต้น เมื่อมั่นใจว่ารถเกิดความผิดปกติ ต้องรีบสอบถามผู้เชี่ยวชาญหรือรีบนำรถเข้าไปตรวจสภาพเพื่อให้ช่างฝีมือสามารถแก้ไขได้ทันท่วงทีก็จะลุกลามจนยากที่จะแก้ไขครับ..
เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ
- อย่าทำ !! หมุนพวงมาลัย ตอนรถหยุดนิ่ง
- อาการพวงมาลัยสั่น เหยียบเบรกแล้วพวงมาลัยสั่นเกิดจากอะไร
- สัญญานเตือนก่อนโช๊คอัพพัง
- คุยกับช่างเค คลิก
- คุยกับเราได้ที่ https://www.facebook.com/toyotakmotors