ไดชาร์จ (Alternator) ไม่ได้ชาร์จอย่างเดียว
ใช้งานยังไง..
หน้าที่ของไดชาร์จตรวจเช็กและดูแลยังไง
ความจริง เมื่อเครื่องยนต์ทำงานเครื่องใช้ไฟฟ้าในรถยนต์ทั้งหมดจะใช้ไฟจากไดชาร์จ ไดชาร์จไม่ได้มีหน้าที่ชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่โดยตรง แต่ที่ไดชาร์จสามารถชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ได้เพราะว่าแรงดันไฟที่ไดชาร์จผลิตออกมาได้นั้นมีค่าสูงกว่าแรงดันไฟที่แบตเตอรี่มี จึงทำให้เกิดการไหลของกระแสไฟศักย์สูงไปยังกระแสไฟศักย์ต่ำ
สาเหตุที่ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดแบบนั้นก็เพราะว่าเราคนไทยเรียกมันว่า “ไดชาร์จ” ซึ่งจริงๆ แล้วชื่อของไดชาร์จคือ “อัลเทอร์เนเตอร์” ซึ่งแปลว่า เครื่องปั่นไฟ โดยปกติที่รอบเดินเบาของเครื่องยนต์แรงดันไดชาร์จขณะเปิดโหลดจะอยู่ที่ 13.9V – 14.5V โหลดในที่นี้จะมีอยู่ 2 อย่าง คือ แอร์ และ ไฟหน้า เพราะฉะนั้นในขณะที่เครื่องยนต์ทำงานเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดในรถยนต์จะใช้ไฟจากไดชาร์จ (อัลเทอร์เนเตอร์) เพียงอย่างเดียว ไม่ได้ใช้ไฟจากแบตเตอรี่รถยนต์อย่างที่เคยเข้าใจกันมา สังเกตได้จากเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วก็สามารถถอดแบตเตอรี่ออกได้ครับ
สัญญาณแจ้งเตือนไดชาร์จพัง !!
1. รอบเดินเบา
2. ความสว่างของไฟหน้าลดลง
3. ความเย็นแอร์ลดลง
4. เครื่องดับ เพราะถ้าไดชาร์จเสีย จะไม่มีไฟฟ้าใช้ในรถ ทำให้เครื่องดับ หยุดเดิน ใช้งานต่อไม่ได้
สิ่งที่ควรรระวัง
เมื่อเกิดอาการแจ้งเตือนไดชาร์จพังตามหัวข้อดังกล่าว หรือมีไฟรูปแบตเตอรรี่โชว์บนหน้าปัด ควรรีบนำรถเข้าเช็กสภาพไดชาร์จ และระบบไฟโดยเร็ว และควรปิดระบบไฟต่างๆ เช่น แอร์ เพื่อเซฟไฟให้พอใช้ระหว่างที่นำเรถไปซ่อม ในกรณีนี้หากไดชาร์จอาการเสียรุนแรง อาจทำให้รถดับกลางทางได้ จึงควรระมัดระวังให้มาก
ตรวจเช็กแบตเตอรี่ กรณีรถไดชาร์จอ่อน
ไดชาร์จอ่อนมักเกิดจากแปรงถ่านสึกหรอและสลิปริงหรือชุดหน้าสัมพัสสกปรก เป็นเหตุทำให้การส่งผ่านไฟฟ้ามีประสิทธิภาพลดลง วิธีแก้ก็คือทำการถอดชุดแปรงถ่านมาตรวจสอบ หากมีการสึกหรอให้รีบทำการเปลี่ยนทันที และให้ทำความสะอาดชุดสลิปริงหรือชุดหน้าสัมพัสไปพร้อมกันด้วย โดยการนำกระดาษทรายเบอร์ละเอียดๆ ขัดบริเวณหน้าสัมพัสก็เป็นอันเรียบร้อย
ไดชาร์จปกติ แต่มีโวลต์ต่ำเนื่องจากรอบเครื่องต่ำ
โดยทั่วไปแล้วไดชาร์จจะอาศัยกำลังจากเครื่องยนต์เพื่อใช้หมุนมู่เลย์ เมื่อรอบเครื่องมีการเปลี่ยนแปลงทำให้ส่งผลต่อการผลิตกระแสไฟของไดชาร์จ ดังนั้นถ้าเกิดโวลต์ไดชาร์จต่ำในขณะรอบเดินเบา (รอบเดินเบาที่ต่ำเกิน 70 รอบต่อนาที) แนะนำให้ทำการเร่งเครื่องเพิ่มขึ้น โดยควรเร่งเครื่องไม่เกิน 800 รอบต่อนาที จากนั้นให้สังเกตว่าโวลต์ไดชาร์จเลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง หากโวลต์ไดชาร์จกลับมาเป็นปกติ หรือประมาณ 13.8 – 14.5 โวลต์ สาเหตุที่อาจไม่ได้เกิดจากไดชาร์จ แต่เกิดจากการรอบเดินเบาต่ำเกินไป แก้ไขได้โดยให้ทำการปรับตัวเร่งรอบ หรือตัวชดเชยรอบเพิ่มขึ้น เพื่อให้รอบเดินเบาเครื่องยนต์สูงขึ้นครับ
เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ
- ปุ่มเบรกมือไม่กดได้ป้ะ??
- ถอด ล้วง ทะลวง ไส้แคต ทำให้เครื่องยนต์แรงขึ้นจริงหรือไม่??
- สัญญานเตือนก่อนโช๊คอัพพัง
- อาการแผงคอยล์ร้อนอุดตัน
- คุยกับช่างเค คลิก
- คุยกับเราได้ที่ https://www.facebook.com/toyotakmotors