เทคนิคการ ขับรถกลางคืน ให้ปลอดภัย ?

1. เช็กสภาพความพร้อมของรถยนต์ก่อนออกเดินทาง เช็กระบบเครื่องยนต์, ระบบช่วงล่าง, ระบบไฟฟ้า ให้พร้อมใช้งานโดยเฉพาะระบบไฟส่องสว่างรอบคัน ทั้งไฟหน้า ไฟหรี่ ไฟเลี้ยว ไฟเบรก จะต้องติดครบทุกดวง โคมไฟ สะอาด ไม่มีฝุ่น เพื่อทัศนวิสัยในการมองเห็นที่ชัดเจนในการขับรถกลางคืน ตรวจสอบปรับตำแหน่งเบาะ, กระจกมองหลัง, กระจกมองข้าง และควรปรับตำแหน่งไฟหน้ารถให้ถูกต้อง เพื่อให้แน่ใจว่าไฟหน้าจะส่องสว่างไปที่ถนน มองเห็นเส้นทางอย่างชัดเจน และไม่ส่งผลเสียต่อรถที่ขับสวนทางมา ขับรถกลางคืน

2. วางแผนเส้นทางในการเดินทาง การวางแผนเส้นทางในการเดินทาง เพื่อทำความคุ้นเคยกับเส้นทาง ช่วยป้องกันเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ ฝึกใช้งานระบบ GPS สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคย ทดลองใช้งานให้คล่อง เพื่อให้เดินทางปลอดภัยและป้องกันการหลงทางในช่วงเวลากลางคืน ทั้งยังช่วยให้ประหยัดเวลาในการเดินทางได้ด้วย

3. พักผ่อนให้เพียงพอ การขับรถเวลากลางคืน จะทำให้เกิดความรู้สึกเหนื่อยล้ามากกว่าตอนกลางวัน ดังนั้นการพักผ่อนให้เพียงพอจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะทำให้การขับขี่ให้ปลอดภัย ที่สำคัญไม่ดื่มแอลกอฮอล์หรือสิ่งมึนเมาก่อนขับหรือในระหว่างขับรถ เพราะอาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้มากขึ้น

4. จอดพักทันที หากเกิดความเหนื่อยล้า ถ้าพบว่าเกิดความเหนื่อยล้า สายตาพร่ามัว ง่วงนอน ให้จอดพักทันที หรือจอดนอนสักงีบ ประมาณ 15-30 นาที เพื่อให้ร่างกายตื่นตัว แล้วค่อยออกเดินทางต่อ เพราะถ้าฝืนขับต่อไปจะทำให้เกิด อาการหลับใน อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

5. มีสติอยู่ตลอดเวลา
ในขณะขับขี่จะต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช้โทรศัพท์ในขณะขับรถ เพราะจะต้องคอยสังเกตสภาพเส้นทาง , สภาพถนน , ป้ายสัญญาณจราจรต่าง เพื่อจะได้ปฏิบัติตามป้ายจราจร และใช้ความเร็วตามป้ายจราจรและกฎหมายกำหนด

 

ตามที่ได้กล่าวมาก็เป็นเทคนิคการขับรถกลางคืนให้ปลอดภัย สภาพอากาศก็สามารถส่งผลต่อการขับขี่ได้เช่นกัน เช่น ฝนตก, ถนนที่ไม่มีไฟส่องสว่าง ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น รวมทั้งเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากขึ้น ลดความเร็วในการขับขี่ลง เพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น และมีสติอยู่ตลอดเวลา ก็จะช่วยให้มีความปลอดภัยในการขับรถเวลากลางคืนมากขึ้นครับ>

 

 

เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ

• แบตเตอรี่ Smart Key หมด ทำอย่างไร
• สัญลักษณ์สามเหลี่ยม บนแก้มยางมีประโยชน์อย่างไร
• ความรู้เกี่ยวกับรถยนต์เรื่องอื่นๆ
• คุยกับช่างเค คลิก 
• คุยกับเราได้ที่ https://www.facebook.com/toyotakmotors