91 กับ 95 แบบไหนกินน้ำมันมากกว่ากัน เติมแบบไหนดี
เลือกยังไง
น้ำมันแบบไหนได้ประสิทธิภาพดีที่สุด….
คิดว่าคงสงสัยว่าตัวเลขที่เราเห็นตามปั๊มน้ำมันที่มีตัวเลขเบนซิน 91 หรือเบนซิน 95 หรือแก๊สโซฮอล์ 91 และ แก๊สโซฮอล์ 95 ตัวเลขที่ต่อท้ายชนิดของน้ำมันคือตัวเลขอะไร มีไว้ทำไมและจะต้องเติมแบบไหนดีเราไปดูกันครับ
91 กับ 95 คือ ค่าออกเทน (octane number)
ค่าออกเทน (octane number) หมายถึงตัวเลขที่แสดงเปอร์เซ็นต์ มวลไอโซออกเทนผสมระหว่างไอโซออกเทนและเฮปเทน ในน้ำมันเบนซินที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน ตัวเลขนี้ใช้บ่งบอกขีดความ สามารถของน้ำมัน ในการต้านทานการน็อก (knocking) ของเครื่องยนต์ ซึ่งหากเครื่องยนต์ เกิดการน็อกขึ้นก็จะเกิดผลเสียต่อกำลังของเครื่องยนต์และทำให้ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์เกิดความเสียหายได้ ตัวเลขค่าออกเทนในกรณีนี้ยิ่งสูงก็จะยิ่งดีต่อเครื่องยนต์
อัตราส่วนกำลังอัดของเครื่องยนต์
อัตราส่วนกำลังอัด คือ อัตราส่วนระหว่างปริมาตรความจุของกระบอกสูบ กับปริมาตรในกระบอกสูบในขณะที่ลูกสูบอยู่ศูนย์ตายบนเครื่องยนต์ที่มีอัตราส่วนกำลังอัดเท่ากับ 10 คือเครื่องยนต์ที่ลูกสูบสามารถบีบส่วนผสมในห้องเผาไหม้ให้เหลือเพียง 1 ใน 10 ของปริมาตรความจุของกระบอกสูบนั่นเอง เครื่องยนต์ยิ่งอัตราส่วนกำลังอัดมาก ถ้าฉีดน้ำเชื้อเพลิงเท่ากันย่อมมีแรงกระทำกับเพลาข้อเหวี่ยงมากกว่าเครื่องยนต์ที่กำลังอัดน้อยกว่า นอกจากนี้การที่เครื่องยนต์มีกำลังอัดที่สูง จะทำให้การเผาไหม้หมดจดมากขึ้น ประหยัดเชื้อเพลิงได้มากกว่า แต่มีข้อเสีย คือ เครื่องยนต์ที่มีอัตราส่วนกำลังอัดสูงคืออุณหภูมิในห้องเผาไหม้จะสูงทำให้ต้องใช้เชื้อเพลิงที่มีค่า Octane สูง ซึ่งราคาก็จะสูงตาม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการ Engine knock หรือการที่มีการจุดระเบิดผิดเวลา ซึ่งจะทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้
การออกแบบเครื่องยนต์เบนซินให้ตอบสนองต่อความต้องการใช้งาน
รถแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อที่ทางผู้ผลิตทำการผลิตออกมาตอบสนองต่อความต้องการของผู้ขับขี่ที่มีความแตกต่างกัน เช่น รถใช้งานทั่วไปที่ไม่ต้องการกำลังของเครื่องยนต์มากมายก็จะออกแบบมาให้มีอัตราส่วนกำลังอัดที่ต่ำ ก็สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีค่าออกเทนต่ำได้ แต่ถ้ารถที่ต้องการกำลังของเครื่องยนต์มากขึ้นอัตราเร่งดีขึ้นก็ต้องเพิ่มอัตราส่วนกำลังอัดเพิ่มขึ้นตามไปด้วยมากกว่า และสิ่งที่ตามมาคือน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ก็ต้องเพิ่มค่าออกเทนให้สูงขึ้นตามไปด้วย ตามอัตราส่วนกำลังอัดที่เพิ่มขึ้น
ข้อสังเกตว่ารถเราเหมาะกับน้ำมันค่าออกเทนเท่าไหร่
ทางผู้ผลิตจะทำการระบุไว้ว่าเครื่องยนต์รุ่นที่ผลิตนั้นเหมาะสมกับน้ำมันที่มีค่าออกเทนเท่าไหร่ โดยผู้ใช้รถสามารถสังเกตได้จากสติ๊กเกอร์ที่ฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิงด้านในที่ผู้ผลิตจะติดเอาไว้ แจ้งค่าออกเทนต่ำสุดของเครื่องยนต์เบนซินที่สามารถใช้ได้ ตามที่ผู้ผลิตกำหนด เช่น แก๊สโซฮอล์ 95 ความหมายคือรถเราสามารถเติมน้ำมัน ได้เฉพาะแก๊สโซฮอล์ 95 กับเบนซิน 95 ได้เท่านั้น หรือถ้าสติ๊กเกอร์แก๊สโซฮอล์ 91 ความหมายคือรถเราสามารถเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 เบนซิน 91 แก๊สโซฮอล์ 95 กับเบนซิน 95 ที่สูงกว่าได้ โดยปกติทั่วไปรถที่มีอัตราส่วนกำลังอัดของเครื่องยนต์ต่ำกว่า 10 : 1 จะใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทน 91 หรือสูงกว่า และรถที่มีอัตราส่วนกำลังอัดของเครื่องยนต์สูงกว่า 10 : 1 ก็จะใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทน 95 หรือสูงกว่า
ผลที่ตามมาหากเติมผิด
กรณีเครื่องยนต์ระบุให้เติมแก๊สโซฮอล์ 95 หากนำรถไปเติม แก๊สโซฮอล์ 91 หรือเบนซิน 91 ก็จะทำให้เครื่องยนต์เกิดอาการวิ่งไม่ออกอัตราเร่งลดลงและมีโอกาสทำให้เครื่องยนต์เกิดอาการน็อกได้ จะเกิดผลเสียต่อการสึกหรอของเครื่องยนต์ได้
กรณีเครื่องยนต์ระบุให้เติมแก๊สโซฮอล์ 91 หากนำรถไปเติม แก๊สโซฮอล์ 95 หรือเบนซิน 95 จะไม่มีผลเสียใดๆ กับเครื่องยนต์จากค่าออกเทนที่สูงขึ้น จะเกิดผลดีมากกว่าเนื่องจากค่าออกเทนที่สูงขึ้น ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอัตราเร่งจะดีขึ้น แต่ก็ต้องแลกมากับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นต่อลิตร
ดังนั้นถ้าเป็นรถเดิมๆ ที่ไม่ได้มีการปรับแต่งเครื่องยนต์ ก็ให้เติมตามค่าออกเทนตามที่ผู้ผลิตกำหนดมาให้หรือเติมค่าที่สูงกว่า เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับเครื่องยนต์ ส่วนอัตราการกินน้ำมันเชื้อเพลิงระหว่าง 91 กับ 95 ไม่ได้มีความแตกต่างกันมาก แต่การให้อัตราเร่งของ 95 จะดีกว่า 91 จากค่าออกเทนที่สูงกว่า รวมทั้งสารเพิ่มคุณภาพที่เติมเข้าไปแต่ราคาก็เพิ่มขึ้นก็ต้องลองบวกลบคูณหารดูก่อนตัดสินใจเติมครับรั่วครับ
เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ
- แบตเตอรี่ Smart Key หมด ทำอย่างไร
- สัญลักษณ์สามเหลี่ยม บนแก้มยางมีประโยชน์อย่างไร
- ความรู้เกี่ยวกับรถยนต์เรื่องอื่นๆ
- คุยกับช่างเค คลิก
- คุยกับเราได้ที่ https://www.facebook.com/toyotakmotors