ไฟเตือนน้ำมันโชว์ ขับต่อได้อีกกี่กิโลโมตร ?
ไปต่อได้
แต่ไม่ควรปล่อยไฟเตือนน้ำมันโชว์บ่อยๆ
โดยทั่วไปแล้ว ควรเติมน้ำมันเมื่อเข็มน้ำมันลดเหลือประมาณ 1 ใน 4 ของถัง เพื่อประสิทธิภาพในการระบายความร้อนให้กับปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงในรถยนต์เครื่องยนต์เบนซิน
ไฟเตือนน้ำมันโชว์
ปัจจุบันรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่มักจะมีระบบแจ้งเตือนระยะทางคงเหลือจากปริมาณน้ำมันในถังมาให้ด้วย ซึ่งตัวเลขที่แสดงให้เห็นดังกล่าวมักออกแบบเผื่อไว้ให้ผู้ขับขี่เสมอ แม้ว่าเข็มแสดงปริมาณน้ำมันจะแจ้งว่าน้ำมันรถของคุณเกลี้ยงถังไปแล้วหรือมีไฟเตือน แต่ความจริงยังคงมีน้ำมันเหลืออยู่ราว 4-6 ลิตร ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ
ดังนั้น หากคำนวณคร่าวๆ ว่า ถ้ารถยนต์กินน้ำมันอยู่ที่ 15 กิโลเมตรต่อลิตร จะสามารถวิ่งได้เป็นระยะทางราว 15×6 = 90 กิโลเมตร แต่หากเป็นการขับขี่ในเมืองที่ต้องขับๆ จอดอยู่เรื่อยๆ หรือจอดติดโดยไม่ได้ขยับอยู่หลายๆ นาที ตัวเลขระยะทางที่วิ่งได้จะลดต่ำลงกว่านั้นมากๆ หรือถ้ารถยนต์กินน้ำมันอยู่ที่ 10 กิโลเมตรต่อลิตร จะวิ่งได้ประมาณ 60 กิโลเมตร เป็นต้น
ทางที่ดีไม่ควรปล่อยให้น้ำมันเกลี้ยงถังบ่อยๆ เพราะอาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบปั๊มเชื้อเพลิงในรถเครื่องยนต์เบนซิน หากน้ำมันน้อยจะเกิดความร้อนสะสมได้ง่ายและทำให้ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงเสียหายเร็วขึ้น ดังนั้นเมื่อเผลอขับจนไฟเตือนน้ำมันโชว์ถึงแม้รู้ว่ายังขับได้อีกประมาณ 40-60 กิโลเมตร ก็ควรจะรีบเติมน้ำมันจะดีกว่าครับ
เติมน้ำมันอย่างไรให้ประหยัดน้ำมันมากที่สุด… ไฟเตือนน้ำมันโชว์
1. เติมน้ำมันเวลาไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเติมช่วงเช้าหรือกลางคืน
เพราะกฎหมายกำหนดไว้ให้ปั๊มน้ำมันทุกแห่งมีถังน้ำมันใต้ดินและมีการควบคุมอุณหภูมิ ทำให้ไม่ว่าจะเติมน้ำมันตอนเช้าหรือกลางคืนก็จะได้ปริมาณที่เท่ากันครับ ความเชื่อที่ว่าเติมน้ำมันช่วงเช้าและช่วงเย็นจะได้ปริมาณเยอะๆ จึงไม่มีผล ช่างเคแนะนำให้เติมเวลาที่สะดวกจะดีที่สุดครับ
2. เติมน้ำมันให้เกิน ¾ ของถัง และเติมใหม่เมื่อใช้จนเหลือ ¼ เป็นวิธีช่วยประหยัดน้ำมันที่สุด และยังช่วยถนอมเครื่องยนต์ให้มีอายุการใช้งานได้นานอีกด้วย ทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของปั๊มติ๊ก ช่วยระบายความร้อน และทำให้การจ่ายน้ำมันเพียงพอสำหรับการสร้างแรงดันที่เหมาะสมในการขับขี่ ส่งผลดีต่อสมรรถนะเครื่องยนต์ในระยะยาวนั่นเองครับ
เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ
- แบตเตอรี่ Smart Key หมด ทำอย่างไร
- สัญลักษณ์สามเหลี่ยม บนแก้มยางมีประโยชน์อย่างไร
- ความรู้เกี่ยวกับรถยนต์เรื่องอื่นๆ
- คุยกับช่างเค คลิก
- คุยกับเราได้ที่ https://www.facebook.com/toyotakmotors