น้ำมันเกียร์ตกตะกอน ต้องรีบปลี่ยน ก่อนมีปัญหา……
เช็กน้ำมัน!
สัญญาณที่บ่งบอกว่ารถกำลังมีปัญหา
“น้ำมันกียร์” ทำหน้าที่ช่วยลดแรงเสียดทาน ลดการสึกหรอของเกียร์ ทั้งยังช่วยลดเสียงดัง และการสั่นสะเทือนในเรือนเกียร์ได้อีกด้วย พร้อมช่วยชะล้างเศษโลหะจากหน้าฟันเกียร์ที่เกิดจากการสะเทือนและเสียดสีภายใน ช่วยป้องกันสนิมการกัดกร่อนจากชิ้นส่วนภายในเกียร์
“ ในการทำงานปกติของระบบเกียร์รถยนต์ก็จะมีทั้งความร้อนเศษละอองสิ่งสกปรกหมุนวนอยู่ในน้ำมันเกียร์ ทางเดียวที่จะถ่ายออกได้คือที่กรองน้ำมันเกียร์สิ่งสกปรกเหล่านี้ ก็จะส่งผลต่อการไหลเวียนของน้ำมันเกียร์ในระบบ เมื่อได้รับความร้อนน้ำมันเกียร์จะเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น
แต่น้ำมันเกียร์มีสีเข้มขึ้นเพียงอย่างเดียว ไม่ได้แปลว่าน้ำมันเกียร์นั้นเสื่อมสภาพ ความร้อนและการสึกหรอนี่เองที่คือต้นเหตุที่ทำให้เราจำเป็นต้องตรวจสอบสภาพน้ำมันเกียร์อยู่บ่อยๆ ตะกอนในอ่างน้ำมันเกียร์และในกรองน้ำมันเกียร์ ตะกอนส่วนใหญ่เกิดจากการขบกันของฟันเฟืองเกียร์ในขณะทำงาน การพบคราบผงตะกอนนี้คือสัญญาณที่จะเริ่มมีปัญหา แต่เกียร์ก็ยังสามารถทำงานได้ไปอีกสักพัก แต่ทางที่ดีควรรีบเปลี่ยนน้ำมันเกียร์หรือให้ผู้เชี่ยวชาญรีบตรวจสอบครับ”
เปลี่ยนน้ำมันเกียร์เมื่อไหร่ดี???
ในคู่มือการใช้รถมักจจะมีระยะเวลาในการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ระบุไว้ ส่วนใหญ่แล้วระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ที่เหมาะสมถ้าเป็นระบบปิดให้เปลี่ยนถ่ายทุกๆ 100,000 กิโลเมตร ส่วนระบบทั่วไปจะอยู่ที่ทุกๆ 40,000 กิโลเมตร ทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์ออโต้ ซึ่งหากเกินระยะดังกล่าวน้ำมันเกียร์เก่าอาจมีคราบเขม่าสะสมจากการใช้งานจำนวนมาก ส่งผลให้การหล่อลื่นลดประสิทธิภาพลง จนทำให้เกียร์พังได้ ถ้าพังขึ้นมาต้องเปลี่ยนใหม่ เสียหายหลายแสนเลยครับ
ตรวจเช็กสภาพน้ำมันเกียร์ด้วยตัวเอง…
1. จอดรถบนพื้นราบ ติดเครื่องทิ้งไว้ให้เครื่องยนต์ทำงาน โดยให้เลื่อนเกียร์ผ่านตำแหน่งเกียร์แต่ละตำแหน่งที่มีไว้ที่ตำแหน่งจอด หรือ สัญลักษณ์ (P) สำหรับเกียร์อัตโนมัติ
2. เปิดฝากรโปรงรถยนต์ขึ้น
3. มองหาป้ายสัญลักษณ์ท่อน้ำมันเกียร์ ให้สังเกตก้านวัดระดับน้ำมันใกล้กระปุกน้ำน้ำมันเกียร์ ซึ่งก้านวัดระดับน้ำมันมักจะอยู่บริเวณด้านหลังของเครื่องยนต์ และอยู่เหนือกระปุกน้ำมันเกียร์ สำหรับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง ในส่วนของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าก้านวัดระดับน้ำมันมักจะอยู่บริเวณด้านหน้าของเครื่องยนต์ และจะติดอยู่กับชุดเพลาส่งกำลัง สำหรับรถยนต์ส่วนใหญ่ ก้านนี้จะอยู่ด้านขวาของกระปุกน้ำมันเกียร์
4. วัดระดับน้ำมันเกียร์โดยให้ดึงก้านน้ำมันเกียร์ออกมา ใช้ผ้าสะอาด หรือกระดาษทิชชูเช็ดก้านวัดระดับน้ำมัน จากนั้นให้จุ่มลงไปใหม่ แล้วดึงออกมาอีกครั้ง ซึ่งระดับน้ำมันควรอยู่ระหว่างเครื่องหมาย “Full” (เต็ม) และ “Add” (เติม) หรือ “Hot” (ร้อน) และ “Cold” (เย็น)” ถ้าระดับน้ำมันต่ำกว่าเส้น “Add” หรือ “Cold” อาจมีการรั่วซึมในระบบ ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบ
5. วิธีตรวจเช็กสภาพน้ำมันเกียร์ สังเกตจากสีและสภาพของน้ำมันเกียร์ น้ำมันสภาพดีควรมีสีแดง (มีสีชมพูหรือน้ำตาลอ่อนบ้างเป็นบางครั้ง) ไม่มีฟอง ไม่มีกลิ่น แต่ถ้าน้ำมันเกียร์รถยนต์ของคุณมีสภาพดังต่อไปนี้ ควรรีบนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อทำการเปลี่ยนทันที ดังนี้
– น้ำมันเกียร์เป็นสีน้ำตาลด่างๆ มีกลิ่นคล้ายขนมปังไหม้ นั่นหมายความว่าน้ำมันเกียร์เดือดจนใช้งานไม่ได้และไม่สามารถกระจายความร้อนที่ระบบเกียร์สร้างขึ้นได้อีกต่อไป น้ำมันเกียร์สามารถนำไปทดสอบเพิ่มเติมได้โดยการป้ายน้ำมันลงบนกระดาษทิชชู่ที่สะอาดและรออีก 30 วินาที เพื่อดูว่าน้ำมันกระจายตัวหรือไม่ ถ้าไม่กระจายตัว ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทันที มิเช่นนั้น จะเกิดความเสียหายร้ายแรงกับระบบเกียร์
– น้ำมันเกียร์เป็นสีน้ำตาลขุ่น จะมีการปนเปื้อนกับน้ำหล่อเย็นจากหม้อน้ำผ่านรอยรั่วในชุดระบายความร้อนน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ ถ้าน้ำมันเกียร์เป็นโฟมหรือเป็นฟอง ทั้งนี้เพราะน้ำมันในกระบอกสูบมากเกินไป มีการใช้น้ำมันเกียร์ผิดประเภท หรือรูระบายของระบบเกียร์ในเครื่องยนต์อุดตัน ขอแนะนำให้รีบนำไปพบช่างโดยเร็วครับ
เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ
- เติมน้ำมันแบบไหน ประหยัด และคุ้มกว่ากัน
- ฝาหม้อน้ำสำคัญแค่ไหน
- สัญญานเตือนก่อนโช๊คอัพพัง
- อาการแผงคอยล์ร้อนอุดตัน
- คุยกับช่างเค คลิก
- คุยกับเราได้ที่ https://www.facebook.com/toyotakmotors