ใครว่าลมยางไม่สำคัญ…นี่แหละ!!
อ่อนแข็งไป ไม่ดี
ลมยางที่ไม่พอดีจะส่งผลให้เปลืองน้ำมัน
ลมยางนั้นสำคัญไฉน? แล้วใครว่าไม่สำคัญ!! ลมมากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ได้ แล้วต้องเติมในปริมาณไหนถึงจะพอดี วันนี้ช่างเค.มีคำตอบและวิธีการเติมลมยางให้เหมาะสมมาฝาก ทำเองได้ง่ายๆ เติมยางรถยนต์ถูกต้องในปริมาณที่เพียงพอกับขนาดของรถ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของยางรถยนต์ แถมยังประหยัดน้ำมันอีกด้วยนะครับ
ถ้าคิดว่าลมยางไม่สำคัญ ต้องคิดใหม่แล้วนะครับ เพราะ อาจเป็นสาเหตุทำให้รถวิ่งอืด,ดึงซ้าย-ขวา,ขาดความนุ่มนวลได้หรือแม้กระทั่งการสึกหรอที่ไม่เท่ากันของดอกยางก็อาจเกิดจากลมยางได้ และลมยางที่อ่อนเกินไปก็ส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้นด้วย วิธีสังเกตุยางว่ามีการสึกหรอที่เกิดจากการเติมลม ก็จะมีวิธีดูซึ่งไม่ว่ายางเล็ก ยางใหญ่ รุ่นไหน ยี่ห้ออะไร ก็ดูเหมือนกัน คือ…
1.หากเติมลมยาง มากเกินไป
– บริเวณของกึ่งกลางของหน้ายางจะสึกหรอได้ง่าย
– การรับแรงและการยืดหยุ่นด้อยลง เมื่อมีการรับน้ำหนักหรือการกระแทก ก็อาจทำให้เกิดการระเบิดของยางได้ง่าย
– การทรงตัวและการเกาะถนน ไม่ดีเท่าที่ควร
2.เติมลมยาง น้อยเกินไป
– บริเวณไหล่ยาง จะสึกเร็วกว่าปกติ แก้มยางทำงานหนัก สึกหรอได้ง่าย
– การหมุนหรือบังคับ พวงมาลัย ได้ยากขึ้น
– การทรงตังของรถในขณะขับขี่ด้อยลง
นอกจากนี้หาก ดอกยาง สึกเป็นช่วงๆ คล้ายฟันเลื่อย สันนิฐานปัญหาอาจเกิดจากศูนย์ของล้อมีความผิดปกติ หากสังเกตุแล้วเห็นสภาพยางไม่ดีก็ใช้ความระมัดระวัง และต้องเข้าใจ ในการ เติมลม ทุกครั้ง ถึงแม้เราจะไม่ได้เติมเองแต่อย่างน้อยก็ควรบอก เด็กปั๊ม ให้เติมลมยางได้ตามมาตรฐานที่กำหนด ก็จะเป็นผลดีต่อ ล้อแม็ก ยาง และรวมไปถึงความปลอดภัยแก่ตัวเราด้วย
รถแต่ละประเภท ก็จะมีค่าแรงดันลมยางที่จะต้องเติมเข้าไม่เท่ากัน ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วรถเราจะต้องเติมเท่าไรถึงจะดี ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่าปกติการใช้รถ นั่งโดยสารกันกี่คน ระยะทางที่ใช้ หากปกติมีการโดยสารไม่เกิน 2 คน ควรเติมลมยาง อย่าให้เกิน Spec ที่มาจากทางมาตราฐานบริษัทผู้ผลิตกำหนดโดยปกติ
รถเก๋ง จะอยู่ระหว่าง 28-35 PSI (ปอนด์/ตารางนิ้ว)
รถSUV จะอยู่ระหว่าง 30-35 PSI (ปอนด์/ตารางนิ้ว)
รถกะบะบรรทุก 45-55 หรือมากกว่าขึ้นอยู่กับน้ำหนักบรรทุก แต่ไม่ควรเกิน 65 (ปอนด์ / ตารางนิ้ว)
ข้อแนะนำอีกนิดเพราะส่วนใหญ่หลายๆท่านอาจจะไม่เคยนึกถึง ก็คือ เวลาเติม ลมยาง ควรเติมตอน ยาง ไม่ร้อนเกินไปเพราะถ้ายางมีอุณหภูมิสูง(วิ่งมาร้อนๆ)แล้วไปเช็คลมยาง ค่าที่เช็คได้จะสูงเนื่องจากมีการขยายตัวของลมที่อยู่ในยาง
ในการเติมลมยางถ้าหากจะให้เด็กปั๊มเติมให้ก็บอกน้องเค้าได้ว่าต้องการให้เติมเท่าไหร่เค้าก็จะเติมให้ แต่หากว่าคุณอยากเติมเอง ก็ให้ดูวิธีเหล่านี้กันก่อน
1. สำรวจอุปกรณ์เติมลมที่คุณเจอมาเป็นแบบอัตโนมัติหรือไม่ ซึ่งปั๊มทั่วไปที่เป็นมาตรฐานตอนนี้มีอยู่จำนวนมาก
2. ถ้าเป็นแบบอัตโนมัติสังเกตุง่ายๆจะมีสัญลักษณ์บวกหรือลบอยู่ที่แป้นสัมผัส เราก็กดบวกหรือลบตามค่าที่เราต้องการ
3. นำเอาหัวเติมลมเสียบลงไปที่จุกลมยาง เครื่องก็จะเติมให้เราอัตโนมัติ เมื่อถึงค่าที่เราตั้งไว้ก็จะมีเสียงเตือนและตัดการทำงานโดยอัตโนมัติ แต่ห้ามไปกดที่เติมลมยางที่เขียนไว้ว่า สำหรับยางแบนเป็นอันขาด เพราะระบบจะไม่มีการตัดลมอัตโนมัติซึ่งอาจเกิดอันตรายได้ ลองเช็คดู ทุกๆสองสัปดาห์ ก็จะช่วยให้คุณรู้สึกปลอดภัยและรู้สึกดีกับความนุ่มนวลของรถคุณและยืดอายุของยาง รวมถึงประหยัดน้ำมันได้อีกด้วยครับ
ที่มา : ช่างเค