Skip to content
  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy & Security Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
    • Promotions
      โปรโมชั่น
    • Auto Reviews
      รีวิวรถยนต์
    • News & Events
      ข่าวและกิจกรรม
    • K.Motors Privileges
      สิทธิพิเศษ
    • Privacy & Security Policy
      นโยบายความเป็นส่วนตัว
Call Center : 02-662-6555

 

 

 

 

 

 

 

 

 

1//kmotors-guru//2025-05-10//2023//6130 Views24646

+ 2

+ 1

+ 0

  • Facebook iconFacebook
อัพเดท : 19 กรกฎาคม 2561

ใครว่าลมยางไม่สำคัญ…นี่แหละ!!

อ่อนแข็งไป ไม่ดี

ลมยางที่ไม่พอดีจะส่งผลให้เปลืองน้ำมัน
ลมยางนั้นสำคัญไฉน? แล้วใครว่าไม่สำคัญ!! ลมมากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ได้ แล้วต้องเติมในปริมาณไหนถึงจะพอดี วันนี้ช่างเค.มีคำตอบและวิธีการเติมลมยางให้เหมาะสมมาฝาก ทำเองได้ง่ายๆ เติมยางรถยนต์ถูกต้องในปริมาณที่เพียงพอกับขนาดของรถ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของยางรถยนต์ แถมยังประหยัดน้ำมันอีกด้วยนะครับ

ถ้าคิดว่าลมยางไม่สำคัญ ต้องคิดใหม่แล้วนะครับ เพราะ อาจเป็นสาเหตุทำให้รถวิ่งอืด,ดึงซ้าย-ขวา,ขาดความนุ่มนวลได้หรือแม้กระทั่งการสึกหรอที่ไม่เท่ากันของดอกยางก็อาจเกิดจากลมยางได้ และลมยางที่อ่อนเกินไปก็ส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้นด้วย วิธีสังเกตุยางว่ามีการสึกหรอที่เกิดจากการเติมลม ก็จะมีวิธีดูซึ่งไม่ว่ายางเล็ก ยางใหญ่ รุ่นไหน ยี่ห้ออะไร ก็ดูเหมือนกัน คือ…

 

 

1.หากเติมลมยาง มากเกินไป
– บริเวณของกึ่งกลางของหน้ายางจะสึกหรอได้ง่าย
– การรับแรงและการยืดหยุ่นด้อยลง เมื่อมีการรับน้ำหนักหรือการกระแทก ก็อาจทำให้เกิดการระเบิดของยางได้ง่าย
– การทรงตัวและการเกาะถนน ไม่ดีเท่าที่ควร

2.เติมลมยาง น้อยเกินไป
– บริเวณไหล่ยาง จะสึกเร็วกว่าปกติ แก้มยางทำงานหนัก สึกหรอได้ง่าย
– การหมุนหรือบังคับ พวงมาลัย ได้ยากขึ้น
– การทรงตังของรถในขณะขับขี่ด้อยลง

นอกจากนี้หาก ดอกยาง สึกเป็นช่วงๆ คล้ายฟันเลื่อย  สันนิฐานปัญหาอาจเกิดจากศูนย์ของล้อมีความผิดปกติ หากสังเกตุแล้วเห็นสภาพยางไม่ดีก็ใช้ความระมัดระวัง และต้องเข้าใจ ในการ เติมลม ทุกครั้ง  ถึงแม้เราจะไม่ได้เติมเองแต่อย่างน้อยก็ควรบอก เด็กปั๊ม ให้เติมลมยางได้ตามมาตรฐานที่กำหนด ก็จะเป็นผลดีต่อ ล้อแม็ก  ยาง และรวมไปถึงความปลอดภัยแก่ตัวเราด้วย

รถแต่ละประเภท ก็จะมีค่าแรงดันลมยางที่จะต้องเติมเข้าไม่เท่ากัน ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วรถเราจะต้องเติมเท่าไรถึงจะดี  ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่าปกติการใช้รถ นั่งโดยสารกันกี่คน ระยะทางที่ใช้ หากปกติมีการโดยสารไม่เกิน 2 คน ควรเติมลมยาง อย่าให้เกิน Spec ที่มาจากทางมาตราฐานบริษัทผู้ผลิตกำหนดโดยปกติ

รถเก๋ง จะอยู่ระหว่าง 28-35 PSI (ปอนด์/ตารางนิ้ว)
รถSUV จะอยู่ระหว่าง 30-35 PSI (ปอนด์/ตารางนิ้ว)
รถกะบะบรรทุก 45-55 หรือมากกว่าขึ้นอยู่กับน้ำหนักบรรทุก แต่ไม่ควรเกิน 65 (ปอนด์ / ตารางนิ้ว)

ข้อแนะนำอีกนิดเพราะส่วนใหญ่หลายๆท่านอาจจะไม่เคยนึกถึง ก็คือ เวลาเติม ลมยาง ควรเติมตอน ยาง ไม่ร้อนเกินไปเพราะถ้ายางมีอุณหภูมิสูง(วิ่งมาร้อนๆ)แล้วไปเช็คลมยาง ค่าที่เช็คได้จะสูงเนื่องจากมีการขยายตัวของลมที่อยู่ในยาง

ในการเติมลมยางถ้าหากจะให้เด็กปั๊มเติมให้ก็บอกน้องเค้าได้ว่าต้องการให้เติมเท่าไหร่เค้าก็จะเติมให้ แต่หากว่าคุณอยากเติมเอง ก็ให้ดูวิธีเหล่านี้กันก่อน

1. สำรวจอุปกรณ์เติมลมที่คุณเจอมาเป็นแบบอัตโนมัติหรือไม่ ซึ่งปั๊มทั่วไปที่เป็นมาตรฐานตอนนี้มีอยู่จำนวนมาก
2. ถ้าเป็นแบบอัตโนมัติสังเกตุง่ายๆจะมีสัญลักษณ์บวกหรือลบอยู่ที่แป้นสัมผัส เราก็กดบวกหรือลบตามค่าที่เราต้องการ
3. นำเอาหัวเติมลมเสียบลงไปที่จุกลมยาง เครื่องก็จะเติมให้เราอัตโนมัติ เมื่อถึงค่าที่เราตั้งไว้ก็จะมีเสียงเตือนและตัดการทำงานโดยอัตโนมัติ แต่ห้ามไปกดที่เติมลมยางที่เขียนไว้ว่า สำหรับยางแบนเป็นอันขาด เพราะระบบจะไม่มีการตัดลมอัตโนมัติซึ่งอาจเกิดอันตรายได้ ลองเช็คดู ทุกๆสองสัปดาห์ ก็จะช่วยให้คุณรู้สึกปลอดภัยและรู้สึกดีกับความนุ่มนวลของรถคุณและยืดอายุของยาง รวมถึงประหยัดน้ำมันได้อีกด้วยครับ

 

ที่มา : ช่างเค

63220:23677 Views35675

เติมน้ำมัน 95 แล้วเติม 91 ผสมน้ำมันเดิมได้ไหม?

เติมน้ำมันผสมกันส่งผลอย่างไรกับเครื่องยนต์…
การเติมน้ำมันผสมหรือสลับกันได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับรถยนต์แต่ละคัน ซึ่งสามารถดูได้ขากคู่มือรถยนต์นั้นๆ การเติมน้ำมันผสมหรือสลั...อ่านต่อ
เติมน้ำมันผสมกันส่งผลอย่างไรกับเครื่องยนต์…
การเติมน้ำมันผสมหรือสลับกันได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับรถยนต์แต่ละคัน ซึ่งสามารถดูได้ขากคู่มือรถยนต...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
63974:21809 Views29630

EGR คืออะไร และการอุด EGR มีผลอย่างไรกับรถยนต์บ้าง

มีข้อดี ข้อเสียกับรถอย่างไรบ้าง…
EGR (Exhaust Gas Recirculation) คือ เป็นระบบที่นำไอเสียที่ผ่านการเผาไหม้จากห้องจุดระเบิดมาแล้ว หมุนเวียนกลับมาเข้าที่ห้องจุดระเบิดใหม่เพื่...อ่านต่อ
มีข้อดี ข้อเสียกับรถอย่างไรบ้าง…
EGR (Exhaust Gas Recirculation) คือ เป็นระบบที่นำไอเสียที่ผ่านการเผาไหม้จากห้องจุดระเบิดมาแล้ว หมุนเวียนกลับ...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
63478:18826 Views10177

บูชคันเกียร์ต้องกี่กิโลเมตร ถึงต้องเปลี่ยน??

สังเกตได้อย่างไรว่าต้องเปลี่ยนแล้ว….
บูชคันเกียร์ คืออะไร บูชเกียร์คืออุปกรณ์ที่ช่วยล็อกให้เกียร์อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ ซึ่งหากบูชเกียร์มีลักษณะแตก หรือหลวม ก็จะทำให้เกิด...อ่านต่อ
สังเกตได้อย่างไรว่าต้องเปลี่ยนแล้ว….
บูชคันเกียร์ คืออะไร บูชเกียร์คืออุปกรณ์ที่ช่วยล็อกให้เกียร์อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ ซึ่งหากบูชเกียร์มีลั...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
69336:15904 Views6564

ไฟเตือนน้ำมันโชว์ ขับต่อได้อีกกี่กิโลโมตร ?

แต่ไม่ควรปล่อยไฟเตือนน้ำมันโชว์บ่อยๆ
โดยทั่วไปแล้ว ควรเติมน้ำมันเมื่อเข็มน้ำมันลดเหลือประมาณ 1 ใน 4 ของถัง เพื่อประสิทธิภาพในการระบายความร้อนให้กับปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงในรถยนต์เค...อ่านต่อ
แต่ไม่ควรปล่อยไฟเตือนน้ำมันโชว์บ่อยๆ
โดยทั่วไปแล้ว ควรเติมน้ำมันเมื่อเข็มน้ำมันลดเหลือประมาณ 1 ใน 4 ของถัง เพื่อประสิทธิภาพในการระบายความร้อนให้กับ...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
66764:18555 Views6176

ใช้เกียร์ S ตอนไหนดี ให้เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด..

เปลี่ยนเกียร์ S เครื่องยนต์กำลังสูง
การเลือกเกียร์รถยนต์ มีส่วนสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก หลายคนให้ความสำคัญเนื่องจากเกียร์ถือเป็นอุปกรณ์หลักที่ช่วยควบคุมกา...อ่านต่อ
เปลี่ยนเกียร์ S เครื่องยนต์กำลังสูง
การเลือกเกียร์รถยนต์ มีส่วนสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก หลายคนให้ความสำคัญเนื่องจากเกียร์ถือ...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
63439:12501 Views5596

สัญลักษณ์ เกียร์ออโต้ ที่ต้องรู้!

เติมน้ำมันผสมกันส่งผลอย่างไรกับเครื่องยนต์…
มาทำความรู้จักกับเกียร์ออโต้ (Auto) ว่าเกียร์ไหนมีความหมายอย่างไรบ้าง และใช้งานยังไงเหมาะสำหรับใช้ในสถานการณ์ไหน พร้อมแนะนำเทคน...อ่านต่อ
เติมน้ำมันผสมกันส่งผลอย่างไรกับเครื่องยนต์…
มาทำความรู้จักกับเกียร์ออโต้ (Auto) ว่าเกียร์ไหนมีความหมายอย่างไรบ้าง และใช้งานยังไงเหมาะสำหรับใช...อ่านต่อ
  • Facebook iconFacebook
prev
next
  • คุ้มค่า ไม่เอาเปรียบราคา
  • ประกันคุณภาพ ซ่อมเหนือมาตรฐาน
  • บริการด้วยใจ บริการหลังการขาย
  • สิทธิพิเศษ ช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง
รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • YARIS ATIV
  • YARIS
  • YARIS CROSS
  • COROLLA ALTIS
  • COROLLA CROSS
  • CAMRY
  • BZ4X
  • GR 86
  • GR YARIS
  • GR COROLLA
  • GR SUPRA
รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • HILUX CHAMP
  • REVO STANDARD CAB
  • REVO SMART CAB
  • REVO DOUBLE CAB
  • HIACE
  • COMMUTER
  • MAJESTY
รถอเนกประสงค์
  • VELOZ
  • FORTUNER
  • INNOVA
  • COASTER
  • ALPHARD
เมนูที่สนใจ
  • สนใจซื้อประกัน
  • สนใจเข้ารับบริการ
  • สนใจร่วมงานกับเรา
  • อยากรู้จัก เค.มอเตอร์ส
  • ค้นหาโชว์รูม
  • เค.มอเตอร์ส กูรู
  • เช็กฤกษ์ออกรถ
TOYOTA K.MOTORS TOYOTA’S DEALER

สำนักงานใหญ่ 769 ซ.สุขุมวิท 43 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110

โทร: 02-662-6555
E-mail: customerservice@kmotors.co.th

  • Buying a Car
    สนใจซื้อรถ
  • Buying Insurance
    สนใจซื้อประกัน
  • Car Service
    สนใจเข้ารับบริการ
  • Our Story
    อยากรู้จักเรา
  • Join Us
    ร่วมงานกับเรา
  • Horoscope
    ฤกษ์ดี…มีสิริมงคล
  • K.Motors Guru
    เค.มอเตอร์ส กูรู
  • Promotions
    โปรโมชั่น
  • Auto Reviews
    รีวิวรถยนต์
  • News & Events
    ข่าวและกิจกรรม
  • Privileges
    สิทธิพิเศษ
  • Privacy & Security Policy
    นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
  • รถยนต์อเนกประสงค์
  • YARIS ATIV

    เริ่มต้น 549,000 บาท

  • YARIS

    เริ่มต้น 559,000 บาท

  • YARIS CROSS

    เริ่มต้น 789,000 บาท

  • COROLLA ALTIS

    เริ่มต้น 894,000 บาท

  • COROLLA CROSS

    เริ่มต้น 999,000 บาท

  • CAMRY

    เริ่มต้น 1,455,000 บาท

  • BZ4X

    เริ่มต้น 1,836,000 บาท

  • GR 86

    เริ่มต้น 2,949,000 บาท

  • GR YARIS

    เริ่มต้น 3,499,000 บาท

  • GR COROLLA

    เริ่มต้น 4,199,000 บาท

  • GR SUPRA

    เริ่มต้น 5,199,000 บาท

  • HILUX CHAMP

    เริ่มต้นที่ 459,000 บาท

  • REVO STANDARD CAB

    เริ่มต้น 584,000 บาท

  • REVO SMART CAB

    เริ่มต้น 669,000 บาท

  • REVO DOUBLE CAB

    เริ่มต้น 744,000 บาท

  • HIACE

    เริ่มต้น 1,019,000 บาท

  • COMMUTER

    เริ่มต้น 1,289,000 บาท

  • MAJESTY

    เริ่มต้น 1,989,000 บาท

  • VELOZ

    เริ่มต้น 795,000 บาท

  • FORTUNER

    เริ่มต้น 1,239,000 บาท

  • INNOVA ZENIX

    เริ่มต้น 1,379,000 บาท

  • COASTER

    เริ่มต้น 1,960,000 บาท

  • ALPHARD

    เริ่มต้น 4,129,000 บาท

prev
next